แหล่งรวมความรู้และการรักษาโรคทรวงอก

SIRA DOCTOR LUNG (โดย นายแพทย์ศิระ เลาหทัย)

แหล่งรวมความรู้และการรักษาโรคทรวงอก

SIRA DOCTOR LUNG

รู้หรือไม่?แม้ไม่สูบบุหรี่ ก็เป็นมะเร็งปอดได้!

 22/02/2021 |  967 Views

เมื่อพูดถึง “มะเร็งปอด” หลายๆคนก็คงจะนึกถึงภาพของผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมสูบบุรี่ จนสุดท้ายผลเสียก็ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งอย่างแน่นอน… แต่จริงๆแล้วทราบหรือไม่ว่าเจ้า “มะเร็งปอด”นั้น แม้จะไม่สูบบุหรี่ก็สามารถเกิดโรคๆได้ วันนี้ Healthy Clean หาคำตอบมาฝากกัน

“ปัจจุบันถึงแม้ว่าเราจะมีวิธีการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งได้เร็วและแม่นยำ แต่มะเร็งปอดก็คงยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลก”… นพ.ศิระ  เลาหทัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หน่วยศัลยศาสตร์ทรวงอกและหัวใจภาควิชาศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล กล่าว

 

สำหรับ “อาการของมะเร็งปอด” ส่วนมากมักไม่มีอาการ แต่อาจเริ่มต้นจากอาการไอ เจ็บหน้าอก หอบเหนื่อย บุคคลที่มีความเสี่ยงควรตรวจสุขภาพตัวเองบ่อย ๆ คือผู้ที่สูบบุหรี่ ซึ่ง “บุหรี่ เป็นปัจจัยหลักของการเกิดโรคมะเร็งปอดและโรคถุงลมโป่งพอง” แต่อย่างไรก็ตาม การสูบบุหรี่แม้เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปอด แต่ไม่ใช่ปัจจัยเสี่ยงเพียงอย่างเดียว.. ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่า “ทำไมผู้ป่วยที่ไม่เคยสูบบุหรี่ถึงสามารถเป็นมะเร็งปอดได้?” แต่จากการศึกษาจากงานวิจัยหลายๆ ฉบับ ที่เกี่ยวข้องพบว่า..

สาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงมะเร็งปอด ได้แก่
1.สารเรดอน เป็นสารกัมมันตรังสีที่มีอยู่ทั่วไปทุกหนแห่ง ไม่มีรส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาท สัมผัสใด ๆ ของมนุษย์ เป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดในมนุษย์ได้เป็นอันดับที่สอง รองจากบุหรี่
2.แร่ใยหิน หรือ แอสเบสตอส เป็นสารก่อมะเร็งที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งโทษและพิษภัยของแร่ใยหิน นั้นก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอด ไต และโรคมะเร็งที่มีชื่อว่า Mesothelioma ซึ่งสามารถพบผลิตภัณฑ์ที่คนไทยใช้อยู่บ่อย ๆ ก็คือ กระเบื้องมุงหลังคาแบบลูกฟูก, ท่อระบายน้ำ, กระเบื้องปูพื้น, ฝ้าเพดาน, ฝาผนัง, ฉนวนกันความร้อน, ท่อน้ำร้อน, หม้อไอน้ำ, พลาสติกขึ้นรูปต่างๆ
3.สารเคมีหนัก
4.การสูดดมควันบุหรี่จากคนใกล้ตัว (Second Hand Smoker)
และ 5. พันธุกรรมที่ผิดปกติ

 

มีรายงานการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งปอดในทวีปเอเชียนั้น 30-40% เป็นผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน โดยมากกว่า 50%ของเพศหญิงนั้นไม่เคยสูบบุหรี่  ซึ่งจะแตกต่างจากประเทศในฝั่งทวีปยุโรป ซึ่งมีเพียงแค่ 10-20% เท่านั้นที่ไม่เคยสูบบหรี่ แต่กลับป่วยเป็นมะเร็งปอด “สำหรับมะเร็งปอดไม่ได้พบมากแต่ในผู้ชายเท่านั้น” เห็นได้จากสถิติในปี 2018 จากการสำรวจของ World Cancer Research Fund International พบว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดรายใหม่เพิ่มถึง 2 ล้านคน และยังพบผู้หญิงป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดมากติดอันดับ 1 ใน 3 ของโรคมะเร็งทั้งหมด

โดยลักษณะของผู้ป่วยที่สูบบุหรี่กับไม่สูบบุหรี่นั้น ผู้ป่วยที่ไม่สูบบุหรี่ส่วนมากมักจะพบมะเร็งชนิดที่เรียกว่า Adenocarcinoma ส่วนผู้ป่วยที่สูบบุหรี่ มักจะพบเป็น Squamous Cell Carcinoma ที่มักจะพบในหลอดลมขนาดกลาง โดยมักอยู่ตรงกลางกลีบปอด มะเร็งประเภทนี้เกิดจากการกระตุ้นการอักเสบ ทำให้เกิดความเสี่ยงที่อาจส่งเสริมให้เป็นมะเร็ง แต่มะเร็งประเภท Adenocarcinoma มักจะอยู่ริมปอด  นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ไม่เคยสูบบุหรี่มักจะพบความผิดปกติของยีนร่วมด้วยได้แก่ EGFR (epidermal growth factor), anaplastic lymphoma kinase (ALK), ROS1 และ MET

 

การรักษามะเร็งปอดของผู้ป่วยสูบบุหรี่ และไม่สูบบุหรี่ค่อนข้างคล้ายกัน ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และการฉายแสง  สำหรับการผ่าตัดนั้นมีบทบาทหลักในกลุ่มที่เป็นมะเร็งปอดระยะเริ่มต้น(ระยะที่ 1 และ 2) “ในปัจจุบันการผ่าตัดปอดไม่ต้องกลัวอีกต่อไป เราสามารถผ่าตัดผ่านทางการส่องกล้องโดยเทคนิคที่เรียกว่า “Vats” ซึ่งการผ่าตัดจะมีแผลขนาดเล็ก 3-4 ซม. ช่องเดียว ส่งผลทำให้ผู้ป่วยเจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว และสามารถกลับมาดำรงชีวิตปกติได้อย่างรวดเร็ว  ส่วนในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะที่ 3และ4 การให้ยาเคมีบำบัด ยาพุ่งเป้า (Target therapy) และการฉายแสง เข้ามามีบทบาทเป็นหลัก” นพ.ศิระกล่าว

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่ามะเร็งปอดนั้นอาจเกิดได้กับทุกคน แต่การป้องกันก็ดีกว่าการรักษา ฉะนั้นคนที่คิดจะเริ่มสูบบุหรี่ก็ขอให้คิดใหม่ หรือผู้ที่สูบอยู่แล้วก็อยากให้พึงระลึกถึงผลร้ายของมัน รวมไปถึงควรหลีกเลี่ยงสารเคมี หรือความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดมะเร็ง สุดท้ายนี้การออกกำลังกาย และการกินอาหารที่ถูกสุขลักษณะ จะทำให้โอกาสเกิดโรคมะเร็งลดต่ำลงอีกด้วย..

… อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/article/791186

เมื่อพูดถึง “มะเร็งปอด” หลายๆคนก็คงจะนึกถึงภาพของผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมสูบบุรี่ จนสุดท้ายผลเสียก็ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งอย่างแน่นอน… แต่จริงๆแล้วทราบหรือไม่ว่าเจ้า “มะเร็งปอด”นั้น แม้จะไม่สูบบุหรี่ก็สามารถเกิดโรคๆได้ วันนี้ Healthy Clean หาคำตอบมาฝากกัน

“ปัจจุบันถึงแม้ว่าเราจะมีวิธีการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งได้เร็วและแม่นยำ แต่มะเร็งปอดก็คงยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลก”… นพ.ศิระ  เลาหทัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หน่วยศัลยศาสตร์ทรวงอกและหัวใจภาควิชาศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล กล่าว

 

สำหรับ “อาการของมะเร็งปอด” ส่วนมากมักไม่มีอาการ แต่อาจเริ่มต้นจากอาการไอ เจ็บหน้าอก หอบเหนื่อย บุคคลที่มีความเสี่ยงควรตรวจสุขภาพตัวเองบ่อย ๆ คือผู้ที่สูบบุหรี่ ซึ่ง “บุหรี่ เป็นปัจจัยหลักของการเกิดโรคมะเร็งปอดและโรคถุงลมโป่งพอง” แต่อย่างไรก็ตาม การสูบบุหรี่แม้เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปอด แต่ไม่ใช่ปัจจัยเสี่ยงเพียงอย่างเดียว.. ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่า “ทำไมผู้ป่วยที่ไม่เคยสูบบุหรี่ถึงสามารถเป็นมะเร็งปอดได้?” แต่จากการศึกษาจากงานวิจัยหลายๆ ฉบับ ที่เกี่ยวข้องพบว่า..

สาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงมะเร็งปอด ได้แก่
1.สารเรดอน เป็นสารกัมมันตรังสีที่มีอยู่ทั่วไปทุกหนแห่ง ไม่มีรส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาท สัมผัสใด ๆ ของมนุษย์ เป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดในมนุษย์ได้เป็นอันดับที่สอง รองจากบุหรี่
2.แร่ใยหิน หรือ แอสเบสตอส เป็นสารก่อมะเร็งที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งโทษและพิษภัยของแร่ใยหิน นั้นก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอด ไต และโรคมะเร็งที่มีชื่อว่า Mesothelioma ซึ่งสามารถพบผลิตภัณฑ์ที่คนไทยใช้อยู่บ่อย ๆ ก็คือ กระเบื้องมุงหลังคาแบบลูกฟูก, ท่อระบายน้ำ, กระเบื้องปูพื้น, ฝ้าเพดาน, ฝาผนัง, ฉนวนกันความร้อน, ท่อน้ำร้อน, หม้อไอน้ำ, พลาสติกขึ้นรูปต่างๆ
3.สารเคมีหนัก
4.การสูดดมควันบุหรี่จากคนใกล้ตัว (Second Hand Smoker)
และ 5. พันธุกรรมที่ผิดปกติ

 

มีรายงานการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งปอดในทวีปเอเชียนั้น 30-40% เป็นผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน โดยมากกว่า 50%ของเพศหญิงนั้นไม่เคยสูบบุหรี่  ซึ่งจะแตกต่างจากประเทศในฝั่งทวีปยุโรป ซึ่งมีเพียงแค่ 10-20% เท่านั้นที่ไม่เคยสูบบหรี่ แต่กลับป่วยเป็นมะเร็งปอด “สำหรับมะเร็งปอดไม่ได้พบมากแต่ในผู้ชายเท่านั้น” เห็นได้จากสถิติในปี 2018 จากการสำรวจของ World Cancer Research Fund International พบว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดรายใหม่เพิ่มถึง 2 ล้านคน และยังพบผู้หญิงป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดมากติดอันดับ 1 ใน 3 ของโรคมะเร็งทั้งหมด

โดยลักษณะของผู้ป่วยที่สูบบุหรี่กับไม่สูบบุหรี่นั้น ผู้ป่วยที่ไม่สูบบุหรี่ส่วนมากมักจะพบมะเร็งชนิดที่เรียกว่า Adenocarcinoma ส่วนผู้ป่วยที่สูบบุหรี่ มักจะพบเป็น Squamous Cell Carcinoma ที่มักจะพบในหลอดลมขนาดกลาง โดยมักอยู่ตรงกลางกลีบปอด มะเร็งประเภทนี้เกิดจากการกระตุ้นการอักเสบ ทำให้เกิดความเสี่ยงที่อาจส่งเสริมให้เป็นมะเร็ง แต่มะเร็งประเภท Adenocarcinoma มักจะอยู่ริมปอด  นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ไม่เคยสูบบุหรี่มักจะพบความผิดปกติของยีนร่วมด้วยได้แก่ EGFR (epidermal growth factor), anaplastic lymphoma kinase (ALK), ROS1 และ MET

 

การรักษามะเร็งปอดของผู้ป่วยสูบบุหรี่ และไม่สูบบุหรี่ค่อนข้างคล้ายกัน ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และการฉายแสง  สำหรับการผ่าตัดนั้นมีบทบาทหลักในกลุ่มที่เป็นมะเร็งปอดระยะเริ่มต้น(ระยะที่ 1 และ 2) “ในปัจจุบันการผ่าตัดปอดไม่ต้องกลัวอีกต่อไป เราสามารถผ่าตัดผ่านทางการส่องกล้องโดยเทคนิคที่เรียกว่า “Vats” ซึ่งการผ่าตัดจะมีแผลขนาดเล็ก 3-4 ซม. ช่องเดียว ส่งผลทำให้ผู้ป่วยเจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว และสามารถกลับมาดำรงชีวิตปกติได้อย่างรวดเร็ว  ส่วนในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะที่ 3และ4 การให้ยาเคมีบำบัด ยาพุ่งเป้า (Target therapy) และการฉายแสง เข้ามามีบทบาทเป็นหลัก” นพ.ศิระกล่าว

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่ามะเร็งปอดนั้นอาจเกิดได้กับทุกคน แต่การป้องกันก็ดีกว่าการรักษา ฉะนั้นคนที่คิดจะเริ่มสูบบุหรี่ก็ขอให้คิดใหม่ หรือผู้ที่สูบอยู่แล้วก็อยากให้พึงระลึกถึงผลร้ายของมัน รวมไปถึงควรหลีกเลี่ยงสารเคมี หรือความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดมะเร็ง สุดท้ายนี้การออกกำลังกาย และการกินอาหารที่ถูกสุขลักษณะ จะทำให้โอกาสเกิดโรคมะเร็งลดต่ำลงอีกด้วย..

… อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/article/791186

TAGS: #Healthy Clean